โรงพยาบาล

การติดเชื้อในโรงพยาบาล
ปัญหาร้ายแรงที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข

ศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการติดเชื้อในโรงพยาบาลเริ่มต้นกว่า 150 ปีที่ผ่านมากับ Ignaz Semmelweis และ Florence Nightingale

ที่มีส่วนทำให้เกิดความก้าวหน้าของจุลชีววิทยาและการดำเนินการป้องกันโรคกับการดูแลสุขภาพ แต่แม้การปรับปรุงการปฏิบัติปลอดเชื้อจากการติดเชื้อในโรงพยาบาลก็ยังถือว่าเป็นปัญหาสุขภาพของประชาชน ผลกระทบโดยตรงที่เกิดขึ้นจากอัตราการตายและค่าใช้จ่ายของการรักษาในโรงพยาบาลและการรักษา งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า bioaerosols (กลุ่มของจุลินทรีย์ที่ลอยอยู่ในอากาศ) ที่มีความสำคัญสำหรับการติดเชื้อ ที่คาดว่าสิ่งเหล่านี้มีความรับผิดชอบใน 10% ถึง 20%

เชื้อโรค aerosolization มีหลายรูปแบบ รวมทั้งผ่านระบบระบายอากาศ (ธรรมชาติหรือเทียม) น้ำ, การติดต่อโดยการสัมผัส หรือผ่านสารคัดหลั่ง เช่น ไอและจาม จากการวิจัยพบว่าสมาชิกของทีมผ่าตัดสามารถปล่อยแบคทีเรียจำนวน 1.500-50.000 ต่อนาทีและเชื้อโรคเหล่านั้นยังสามารถอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานาน




ควรป้องกันมากกว่าที่จะรักษา

การติดเชื้อในโรงพยาบาล ไม่เพียงแต่ หมายถึง ต้นทุนทางการเงินที่สูง แต่ยังหมายถึงชีวิตของคนไข้และพนักงานในโรงพยาบาล ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อเป็นสิ่งสำคัญ มากกว่าการรักษาการติดเชื้อ โดยการใช้เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะ ราคาถูกกว่า แต่ยัง มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ เทียบเท่ากับการซื้อเครื่องฟอกอากาศ Airfree® จำนวน 160 เครื่อง

ชื้อโรคอันตราย:

* เชื้อ Staphylococcus aureus เป็นหนึ่งในตัวการ ที่ให้เกิดการติดเชื้อในโรงพยาบาล เชื้อแบคทีเรียสามารถต้านทานต่อยาปฏิชีวนะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในโรงพยาบาล จากการศึกษากว่าสามปี ในประเทศบราซิล แสดงว่า เชื้อแบคทีเรียเจ็ดชนิดสามารถต้านทานต่อยาปฏิชีวนะทั่วไปร วมถึง S. aureus and P. aeruginosa
* Aspergillus ssp จำเป็นต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเชื้อราชนิดนี้สามารถพบได้ในแทบทุก สภาพแวดล้อมที่ เป็นอากาศ เส้นทางหลักของการแพร่กระจาย เนื่องจากสปอร์ขนาดเล็ก( สปอร์ ที่มีอยู่ใน เชื้อรา ) ก็สามารถอยู่ ในอากาศเป็นเวลานานหลายเดือน แสดงให้เห็นว่า 75 % ของกรณี aspergillosis บุกรุกจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดจากการวินิจฉัยยากลำบาก นอกจากนี้อัตราความสำเร็จของการรักษา ต่ำ(5%) และยังมีค่ารักษาแพง

อากาศบริสุทธิ์ พื้นฐานที่ดีสุขภาพ!

เครื่องฟอกอากาศ Airfree® ได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถลดอัตราของเชื้อโรค เชื้อจุลินทรีย์ ที่มีอยู่ในอากาศ จากการทดสอบ 12 ผลการทดลองที่ทดสอบกับสถานการณ์และการใช้งานจริง โดยห้องปฏิบัติการ (ISO 17025 บรรทัดฐาน ) เชื้อโรคจุลินทรีย์ต่าง ๆ ลดลง จาก 62 % เป็น 99% และ เชื้อราลดลง ระหว่าง 64 % และ 99% เฉลี่ย ลดลง เป็น 82% สำหรับเชื้อแบคทีเรียและ 86% สำหรับเชื้อรา AIRFREE ® เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรเพียงผู้เดียว สามารถช่วยกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ให้ตาย โดยใช้อุณหภูมิสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส



ประโยชน์อื่น ๆ ของ AIRFREE รวมถึง:

- ราคาไม่แพง การบำรุงรักษาฟรีเพราะไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง และการใช้พลังงานต่ำ;
- ความสามารถในการกำจัด เชื้อโรค ดชื้อรา แบคทีเรีย โดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงของเชื้อโรค;
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม;
- ไม่มีผลกับอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม;
- เครื่องฟอกอากาศ เดียวในโลกที่ มีความสามารถใน การลดความเข้มข้นของ โอโซน ( O3 ) ได้ถึง 26%.

คุณสมบัติพิเศษของ AIRFREE® :

มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรค - มีการทดสอบและผ่านการรับรองโดยใช้กับสภาพแวดล้อมจริง ที่สถาบันที่ดีที่สุดของโลก AIRFREE® สามารถทำลายเชื้อโรคต่างๆ โดยเชื้อโรคดังกล่าวจะถูกส่งผ่านไปยังแกนเซรามิคที่ใช้ความร้อนสูง

การทำงานที่เงียบสนิท – ไม่มีเสียงรบกวน

ลิขสิทธิ์เฉพาะ AIRFREE® - เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตร ในต่างประเทศ และ Airfree® ยังเป็นเครื่องเดียวที่ช่วยลด ความเข้มข้นของ โอโซน

ประหยัด- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแผ่นกรอง หรือต้องเติมสารเคมี และยังประหยัดไฟ เพราะ Airfree® ใช้ไฟเพียง 48 วัตต์เทียบเท่ากับการใช้หลอดไฟฟ้าเล็กๆเพียงหลอดเดียว

ใช้งานง่าย - เพียงแค่เปิดสวิตซ์ก็สามารถใช้งานได้แล้ว และ ไม่จำเป็นต้องมี การบำรุงรักษา หรือ การทำความสะอาด

1.Airfree ทำงานงานอย่างไร แล้วจะช่วยกำจัดเชื้อโรคได้จริงหรือ?
เครื่อง Airfree จะไปกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และสารทำให้ทำเกิดภูมิแพ้อื่นๆ เช่น เกสรดอกไม้ รังแคจากผิวของสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่สารที่ออกมาจากตัวไรฝุ่น จะถูกทำลายให้หมดไป โดยใช้ความร้อน เชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับอากาศจะถูกดูดเข้าไปยังเครื่อง Airfree ที่มีแกนเซรามิคความร้อน 200 องศา แต่ทั้งนี้ความร้อนนี้จะไม่เป็นอันตรายกับผู้ใช้

2.เครื่องนี้จะมีผลข้างเคียงกับผู้ใช้หรือไม่?
เครื่อง Airfree ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ใช้ความร้อนสูงในการเปลี่ยนอากาศที่ปนเปื้อนให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบและผลข้างเคียงใดๆ กับผู้ใช้ อีกทั้งตัวเครื่องจะไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือประจุไฟฟ้า หรืออนุภาคใดๆออกมาจากตัวเครื่อง เครื่อง Airfree สามารถใช้ได้ทุกสถานที่ ทั้งบ้านที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน

3.ทำไมตัวเครื่องถึงมีแสงกระพริบๆ?(*)
สาเหตุที่ 1: Airfree มีระบบประหยัดไฟและตัดไฟอัตโนมัติ โดยตัวเครื่องจะปิดระบบการทำงานที่ตัวเซรามิค เมื่อถึงช่วงอุณหภูมิที่จะอำนวยความสะดวกในการหมุนเวียนอากาศ (อากาศในห้องจะถูกดึงเข้าไปในเครื่องที่จะทำลายสิ่งสกปรกปนเปื้อนและกลิ่นไม่พึงประสงค์)แกนเซรามิกปิดตัวลงไม่กี่นาทีไฟแสดงสถานะจะปิดและไฟด้านบน emitting diode (LED) จะกระพริบ Airfree ยังคงฆ่าเชื้อในอากาศในช่วงเวลานี้ นี้แสดงให้เห็นการอนุรักษ์การใช้พลังงานไฟฟ้าและการดูแลรักษาของแกนเซรามิค สาเหตุที่ 2: อีกปัจจัยที่สนับสนุนการ Airfree ของการเกิดกระพริบเป็นอากาศแวดล้อม (อากาศในสภาพแวดล้อม) เมื่ออากาศถึง 35 องศาเซลเซียส, Airfree จะตัดไฟในแกนเซรามิคโดยอัตโนมัติเพียงไม่กี่นาที แต่ยังคงทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคอยู่ (กระพริบของไฟด้านบนและจางหายไปของด้าน LED ในรูปแบบ P40 / P60 / P80 / P125 / P150 และก็จางหายไปของด้าน LED กับรุ่น E40 / E60 / E80 / E125 สัญญาณเกิดขึ้นนี้) ในขั้นตอนนี้เป็นการประหยัดพลังงานและนับเป็นอีกหนึ่งกลไกเพื่อควบคุมความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน สาเหตุที่ 3: Airfree อาจเกิดอาการไฟกระพริบหากมีการจัดวางอยู่ในลักษณะไม่เหมาะสม หากไฟด้านบนไม่ได้หยุดกระพริบโปรดตรวจสอบว่าเครื่องของคุณอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง หากเวิ้งอากาศด้านบนและด้านล่างจะเป็นอิสระจากการอุดตัน, กระพริบอาจจะเกิดจากเต้าเสียบไฟฟ้าที่ผิดพลาด กรุณาเสียบเข้ากับเต้าเสียบที่เหมาะสม หากในอีก 10 นาทีถัดไฟด้านบนยังคงกระพริบอยู่แม้ว่าเครื่องของคุณมีการติดตั้งอย่างถูกต้องนี้แสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์ที่อาจจะชำรุด กรุณาติดต่อตัวแทนจำหน่ายทันทีของคุณในกรณีดังกล่าว (*) The Airfree E40/E60/E80/E125 does not incorporate the Anti-stress lights.

4.อันตรายหรือไม่ถ้าไฟที่ด้านบนตัวเครื่องมีแสงกระพริบๆ?(*)
ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ เมื่อตัวเครื่องเจอสิ่งผิดปกติ ตัวเครื่องจะทำการปิดระบบการทำงานของแกนเซรามิค

5.สามารถวางเครื่อง Airfree ในห้องเสื้อผ้า walk in closet ได้หรือไม่ ?
ได้ ถ้ามีพื้นที่อย่างต่ำ 10 ตรม. แต่ไม่ควรวางเครื่อง Airfree ไว้ข้างใต้ชั้นวางของ เพราะประสิทธิภาพของเครื่องจะลดลง

6. สามารถวางเครื่อง Airfree ที่ตู้เสื้อเสื้อผ้าแบบเปิด (Walk in Closet) ได้หรือไม่
สามารถวางได้ ตราบใดที่พื้นที่มีขนาด 10 ตารางเมตร และเครื่อง * Airfree® ไม่ควรวางอยู่ภายใต้ชั้นวาง เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ลดลง

7.สามารถใช้ Airfree ในห้องปรับอากาศได้หรือไม่?
ได้

8.จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่อง Airfree ไม่ทำงาน?
เช็คด้านบนของเครื่อง ถ้ามีลมอุ่นๆปล่อยออกมาแสดงว่าเครื่องทำงานปกติ

9.สามารถวางเครื่อง Airfree ตรงทางเดินเพื่อให้เครื่องทำงาน และกำจัดเชื้อโรคได้ทั้งบ้านหรือไม่
ไม่ควร เพรา Airfree จะกำจัดเชื้อโรคเฉพาะตรงทางเดินเท่านั้น

10.สามารถวางเครื่อง Airfree ในห้องที่ปิดได้หรือไม่
ควรวางเครื่อง Airfree ในห้องที่มีขนาดขั้นต่ำที่ 10 ตรม.และควรเลือกเครื่องให้เหมาะกับขนาดห้องแต่ละห้อง แต่ไม่ควรเป็นห้องที่เปิดโล่ง

11.Airfree สามารถกำจัดแบคทีเรีย และไวรัสได้หรือไม่?
ได้ เครื่อง Airfree แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศทั่วไป เพราะ Airfree สามารถกำจัดเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเครื่องสามารถดูดสิ่งที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเข้าสู่แกนความร้อนเซรามิค

12.สามารถยกเครื่อง Airfree สลับไปใช้ที่ห้องอื่นได้หรือไม่?
ควรเปิดเครื่อง Airfree ให้ทำงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน เทคโนโลยีของ Airfree จะทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงไม่ควรไปหยุดการทำงานของตัวเครื่องโดยการถอดปลั๊กและยกไปมา

13.ควรปิดเครื่องก่อนออกจากบ้านหรือไม่?
ไม่ควร เครื่อง Airfree ควรเปิดทำงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน

14.จะเกิดขึ้น ถ้า AIRFREE ตัดการเชื่อมต่อ หรือ หยุดทำงาน?
AIRFREE จะใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อกลับมากำจัดอากาศเสียต่อ

15.Does CADR measure the effectiveness of the Airfree?

ไม่ใช่เลย CADR ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทดสอบเทคโนโลยี Airfree สัญลักษณ์ AHAM (มักจะพบที่ด้านหลังของกล่องเครื่องฟอกอากาศ) ที่แสดงถึงคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ (CADR) ทั้งสามชนิด หมายเลขหนึ่งสำหรับควันบุหรี่ อีกตัวเลขหนึ่งสำหรับเกสรดอกไม้ และตัวสุดท้ายแสดงค่าฝุ่น ค่าของ CADR จะบ่งชี้ปริมาณของคุณภาพการกรองอากาศโดยปริมาณของควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ และฝุ่นที่สูงนั้นแสดงถึงประสิทธิภาพการกรองอากาศที่เหนือกว่า ทั้งนี้ CADR ไม่ได้ออกแบบสำหรับ Airfree เป็นเพราะ Aifree จะไม่กรอง แต่ทำลายเชื้อโรคและจุลินทรีย์แทน หน่วย CADR นั้นใช้เฉพาะกับปริมาณของอากาศที่ผ่านการกรองโดยการส่งมอบเครื่องฟอกอากาศตามที่ระบุไว้ข้างต้น CADR ไม่ได้วัดการลดจุลินทรีย์เช่นเชื้อราและแบคทีเรียซึ่งสามารถตรวจพบโดยห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา AIRFREE ไม่ใช่กับดักของจุลินทรีย์ใด ๆ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการแม้เชื้อเหล่านั้นอาจขนาดเล็กแต่กว่า 99,99% ของอนุภาคอินทรีย์ทั้งหมดจะถูกทำลายอย่างเต็มที่เมื่อผ่านแกนเซรามิค Airfree ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรในประเทศสหรัฐอเมริกา

16.Airfree ทำลายไรฝุ่นได้อย่างไร ?

.การลดปริมาณเชื้อราในสภาพแวดล้อมจากการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของ Airfree ทำให้ปริมาณอาหารของไรฝุ่นลดลงซึ่งเป็นการกำจัดที่สาเหตุ นอกจากนี้ Airfree ยังทำลายสารพิษที่เกิดจากเชื้อราโดยตรงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย

17.Airfree กำจัดเชื้อราได้อย่างไร
ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น AIRFREE กำจัดจุลินทรีย์ในอากาศรวมถึงเชื้อราถึงระดับของเซลล์ ทั้งนี้การกำจัดในระดับเซลล์นั้นจะทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถกลับมาเกิดและพัฒนามาได้อีก

18.Airfree® ช่วยกำจัดเชื้อไวรัสได้อย่างไร?
จุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กจะถูกกำจัดให้หมดไปจากการทำงานผ่านแกนเซรามิกของ Airfree โดยอุณหภูมิภายในระบบแกนพิเศษนี้สูงกว่าระดับความร้อนที่จำเป็นในการใช้ฆ่าเชื้อไวรัสเหล่านี้ให้หมดไป ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า Airfree คือเครื่องมือที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ

19.Airfree® ช่วยกำจัดกลิ่นบุหรี่ได้หรือไม่?
ถูกต้องแล้ว Airfree สามารถกำจัดกลิ่นบุหรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

20.Airfree จะปล่อยก๊าซ หรือ สารเคมีออกมาจากตัวเครื่องหรือไม่?
ไม่ เครื่องจะปล่อยแต่อากาศที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วเท่านั้น ดังนั้นตัวเครื่องจะไม่มีการปล่อยอนุภาคหรือโอโซนพิษออกมา

21.Airfree จะทำให้ห้องร้อนหรือไม่?
ไม่ ถึง Airfree จะใช้ความร้อนในการกำจัดเชื้อโรค แต่จะไม่ทำให้ห้องเกิดความร้อน

22.ไม่ AIRFREE ทำให้มีความสัมพันธ์กับความชื้นในห้องหรือไม่ ?
ไม่

23.ต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศหรือไม่?
ไม่

24.Airfree สามารถช่วยประหยัดไฟ?
เครื่องใช้พลังไฟฟ้า 45 วัตต์ ดังนั้นจึงช่วยเรื่องประหยัดไฟ

25.ไฟโหมดกลางคืน จะรบกวนการทำงานของ ฟังก์ชั่นการฆ่าเชื้อของเครื่อง AIRFREE หรือไม่ ?
โหมดไฟกลางคืนเป็นแสงสีฟ้าจะช่วยให้ผ่อนคลาย หรือ ใช้ เพียงเป็นไฟส่องสว่างเวลากลางคืนในห้องนอนเด็กเล็ก (*)ช่วง AIRFREE E ไม่ รวม ไฟกลางคืน

26.หลังจากผ่านกระบวนการของ Airfree แล้วจุลินทรีย์ทั้งหลายหายไปไหน
เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป เชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้ประกอบไปด้วยคาร์บอน ออกซิเจน และไนโตรเจน เมื่อถูกความร้อนกว่า 414 องศาฟาเรนไฮต์จากเครื่อง Airfree เชื้อจุลินทรีย์เหล่านั้นก็จะสลายตัวกลับกลายเป็นอนุภาคก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ซึ่งก๊าซดังกล่าวพบได้ทั่วไปจากการหายใจของมนุษย์เราเช่นเดียวกัน) และส่วนหนึ่งระเหยเป็นไอน้ำกลับสู่อากาศ ทั้งนี้คาร์บอนบางส่วนอาจหลงเหลืออยู่ แต่จะคงเหลือในสภาพโมเลกุลที่ไม่สามารถทำหน้าที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้อีก่ต่อไปเพราะกระบวนการของ Airfree ได้ทำลายสภาพโครงสร้างทางโมเลกุลเซลล์ของมันออกไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การะบวนการทั้งหมดที่ได้อธิบายมาในทึ่นี้เกิดขึ้นในความละเอียดระดับชั้นโมเลกุล ซึ่งนั่นหมายความว่าสสารใดก็ตามที่อาจตกค้างหรือคงเหลือ จะมีขนาดเล็กมากจนไม่มีความจำเป็นต้องทำความสะอาดใดๆเลย

27.Airfree ทำความสะอาดอากาศได้อย่างไรโดยปราศจากพัดลมดูดอากาศ
ด้วยลิขสิทธ์เฉพาะของระบบหมุนเวียนอากาศเพื่อฆ่าเชื้อโรคแบบ TSS ตัวเครื่อจะทำการขับเคลื่อนอากาศเข้าไปยังตัวเองอย่างเงียบสนิทและฆ่าเชื้อโรคด้วยอุณหภูมิสูง ระบบหมุนเวียนอากาศของ Airfree สามารถฆ่าเชื้อโรคผ่านความร้อนในปริมาตร 14 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ยืนยันจากผลการวิจัยโดย SP Swedish National Laboratory ทั้งอากาศบริสุทธิ์และเชื้อโรคจะถูกดูดผ่านเครื่องเพื่อทำงานโดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบพัดใดๆ ทำให้เครื่องทำงานโดยปราศจากเสียงรบกวน สิทธิบัตรพิเศษของเทคโนโลยี TSS ของ Airfree ได้รับการรับรองจากห้องวิจัยทดลองชั้นนำหกสถาบันทั่วโลกหลังทดสอบการทำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมจริง คุณสามารถเข้าถึงผลการวิจัยโดยละเอียดจากเว็บไซต์ของเรา www.airfree.com

28.Airfree ทำหน้าที่ลดปริมาณฝุ่นได้หรือไม่?
การทำงานของ Airfree ไม่ได้ทำหน้าที่ในการลดปริมาณเนื้อฝุ่นเพราะมันไม่ใช่เครื่องกรองที่ดักจับฝุ่น ในทางที่ดีกว่า Airfree กลับทำหน้าที่แปรสภาพฝุ่นเหล่านั้นด้วยความร้อนจนฝุ่นไม่สามารถทำหน้าที่ระคายเคืองร่างกายของคนอีกต่อไป

29.ความละเอียดของอนุภาคเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของ Airfree ได้หรือไม่ ?
ไม่เลย เครื่องฟอกอากาศทั่วไปมักใช้ความละเอียดของการดักอนุภาคฝุ่นเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพ แต่เนื่องจาก Airfree ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ดักจับฝุ่นดังที่ได้อธิบายถึงการทำงานของระบบ TSS เทคโนโลยีไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นหน่วยชี้วัดดังกล่าวจึงนำมาใช้ชี้วัดประสิทธิภาพของ Airfree ได้
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
อันดับแรก การวัดอนุภาคฝุ่นนั้นมักวัดได้จากการตรวจสอบอากาศที่ออกจากเครื่องฟอกอากาศทั่วไปว่ามีอนุภาคความละเอียดเท่าใด Airfree ไม่ใช่เครื่องกรองอากาศที่ดักจับอนุภาคฝุ่น ดังนั้นปริมาณอนุภาคจึงอาจมีขนาดเท่าเดิมแม้ผ่านกระบวนการทำงานของเครื่องแล้วก็ตาม แต่เราสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเทคโนโลยีของ Airfree จึงกล่าวได้ว่ามีประสิทธิภาพและเราไม่จำเป็นต้องชี้วัดจากอนุภาคฝุ่นอีกต่อไป อันดับสอง ปริมาณอนุภาคฝุ่นไม่ได้บอกเราว่าอนุภาคเหล่านั้นมีชีวิตหรือไม่ และทำร้ายระบบทางเดินหายใจเราด้วยหรือไม่อีกเช่นกัน
อนุภาคฝุ่นคืออะไร
อนุภาคฝุ่นคืออากาศที่ปนเปื้อนซึ่งล่องลอยอยู่ในห้อง อาทิเช่น มูลของไรฝุ่น เศษซากของเซลล์มนุษย์ที่ตายแล้วเช่นผิวหนังหรือเส้นผม เชื้อแบคทีเรียทั้งที่มีชีวิตอยู่และตายแล้ว เชื้อไวรัส เกสรดอกไม้ เชื้อราทั้งที่มีชีวิตอยู่และตายแล้ว สะเก็ดผิวของสัตว์เลี้ยง ฝุ่นควันของเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ของทั้งรถยนต์และอุปกรณ์อื่นๆ เทคโนโลยี TSS ของ Airfree จะทำลายโครงสร้างทางโมเลกุลที่มีชีวิตทั้งหมดที่อุณหภูมิกว่า 400 องศาฟาเรนไฮต์ ทำให้โครงสร้างของสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นเป็นฝุ่นปนเปื้อนที่มีโครงสร้างไม่สมประกอบอีกต่อไป โดยส่วนมากแล้วเมื่ออนุภาคสารอินทรีย์ถูกความร้อนสันดาปโปรตีนภายในอนุภาคจะถูกแปรสภาพจนทำให้อนุภาคฝุ่นเหล่านั้นไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อีกต่อไป เครื่องจึงปล่อยอนุภาคที่ผ่านกระบวนการเหล่านั้นกลับสู่อากาศทำให้ปริมาณอนุภาคฝุ่นจึงอาจดูเหมือนเดิม แต่วิธีชี้วัดแบบนี้ไม่ได้บอกเราว่าอนุภาคฝุ่นนั้นเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจเราได้หรือไม่
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าอนุภาคฝุ่นที่ลอยอยู่ทั่วห้องเรานั้นเป็นอันตรายต่อเราหรือไม่?
มากกว่าเพียงการอ้างอิงระบบการตรวจวัดคุณภาพการกรองอากาศแบบ CADR หรือ CFM ที่ Airfree เรามุ่งเป้าไปยังประเด็นหลักถึงตัวการหลักและพิสูจน์ให้ลูกค้าได้เห็นว่าเขาควรจะได้รับอะไรมากกว่าจะเครื่องฟอกอากาศ อะไรคือผลประโยชน์ที่ลูกค้าควรจะได้รับ เป้าหมายที่เราต้องการคือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเชื้อราและแบคทีเรียลดลงจากห้องและนั่นคือลิขสิทธิ์ของระบบ TSS จาก Airfree ซึ่งไม่มีใครเหมือน ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยี TSS จาก Airfree ยังให้ประโยชน์ต่อลูกค้าอีกมากมายชนิดที่สินค้ายี่ห้ออื่นทำไม่ได้ อาทิ : - ปราศจากค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพราะไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรอง - เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม่ต้องก่อให้เกิดขยะที่เกิดจากไส้กรองที่ใช้แล้ว - ระบบเสียงที่เงียบสนิท ข้อมูลที่ Airfree อ้างถึงปริมาณเชื้อราและแบคทีเรียนั้นได้รับการยืนยันจกาการทดสอบภายใต้สภาวะแวดล้อมจริงจากหลากหลายสถาบันวิจัย โดยยืนยันตรงกันถึงปริมาณแบคทีเรียและเชื้อราที่ลดลงกว่า 85-95% ซึ่ง Airfree สามารถทำลายโครงสร้างทางโมเลกุลได้แม้ว่าเซลล์ดังกล่าวจะมีอนุภาคเล็กเพียงใดก็ตาม คำถามสุดท้ายที่เราต้องถามลูกค้าทุกท่านก็คือว่า ผู้บริโภคควรซื้อเครื่องฟอกอากาศซึ่งเคลมค่า CADR หรือ CFM แข่งกันหรือควรซื้อเครื่องที่ให้ประโยชน์กับพวกเขาจริงมากกว่า ที่ Airfree เรานำเสนอแต่ข้อมูลที่เป็นจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้าเองโดยเรายินดีที่จะชี้แจงข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าปราศจากข้อสงสัยใดๆ

30.ทำไมอาการภูมิแพ้จึงหายไปหลังใช้เครื่อง Airfree ?
โดยทั่วไปแล้วอาการภูมิแพ้มักเกิดจากตัวการที่สำคัญคือ มูลของไรฝุ่นและแบคทีเรียที่มีชีวิต ทั้งนี้พวกมันจะถูกทำลายไปด้วยความร้อนจากเครื่อง Airfree โดยผลการวิจัยจากเคมบริดจ์ได้แสดงข้อมูลดังกล่าว อีกหนึ่งทฤษฎีได้กล่าวไว้เช่นกันว่า ฝุ่นทั้งหลายจะมีโทษก็ต่อเมื่อมีเชื้อราและแบคทีเรีย จึงจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อ Airfree สามารถทำลายพวกมันได้ ปัญหาดังกล่าวจึงหมดไป (อ้างอิงจากการวิจัย ÁCAROS CONTAMINANTES DE AMBIENTES E CAUSADORES DE DOENÇAS ALÉRGICAS NO HOMEM, CROCE, J. - Professor de Pós Graduação em Alergia na Faculdade de Medicina da USP..BAGGIO, D. - Foi professor do Departamento de Parasitologia do Instituto de Ciências Biomédicas.)

31.ปริมาณของอากาศที่จะถูกย้ายไป ต่อนาที โดยใช้ AIRFREE P3000 คืออะไร?
อากาศจะหมุนเวียน ในพื้นที่ห้อง 32 ตรม อย่างไร โปรดทราบว่า เครื่อง AIRFREE จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเพื่อหมุนเวียนอากาศ ในห้องพักขนาด 32 ตรม ดังนั้นจึงมีการหมุนเวียนอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 ครั้งต่อ 24 ชั่วโมง แต่สิ่งที่มีความสำคัญที่แท้จริงให้กับผู้ใช้ คือเครื่อง AIRFREE สามารถกำจัด เชื้อรา และแบคทีเรีย ที่อยู่ใน ห้องพัก และเมื่อใช้เครื่องแล้วผู้ใช้จะรู้สึกดีขึ้น ดังนั้นเราจึง มีการทดลองและทดสอบมากกว่า 20 การทดสอบในห้องปฏิบัติการและใน สภาพการทำงาน จริง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า เชื้อโรคและจุลินทรีย์ในห้องพัก มีจำนวนลดลงเฉลี่ย 85-97 %